คุณลักษณะของตัวละคร ของ ไคบะ เซโตะ

ภูมิหลัง

เรื่องราวในวัยเด็กของไคบะได้ถูกกล่าวถึงอยู่ตลอดเวลาในอนิเมะและมังงะ แม้ว่าช่วงระยะเวลาที่หนึ่ง, สอง และสามจะมุ่งเน้นในส่วนดังกล่าว แม่ของเซโตะเสียชีวิตลงภายหลังจากการคลอดโมคุบะ และพ่อของพวกเขาก็เสียชีวิตลงเนื่องจากอุบัติเหตุในขณะที่เขามีอายุได้แปดปี จากสถานภาพของเด็กกำพร้า ญาติของพวกเขาผลาญมรดกจนหมดสิ้น และปล่อยให้พวกเขาอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า – นามสกุลเดิมของพวกเขาไม่เป็นที่รู้จักในสังคม เมื่อเซโตะมีอายุได้สิบปี (สิบสองปีในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ) หัวหน้าของไคบะคอร์ปที่มีชื่อว่าไคบะ โกซาบุโร่ ได้มายังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อดำเนินการประชาสัมพันธ์สนับสนุน ไคบะเห็นโอกาสที่ท้าทายในการเล่นหมากรุก ซึ่งโกซาบุโร่ได้นำเซโตะและโมคุบะมาเลี้ยงดูโดยมุ่งหวังให้เป็นผู้ชนะ เขาชุบเลี้ยงเซโตะจนประสบความสำเร็จ (ในมังงะเขาใช้วิธีการโกง ในขณะที่ในอนิเมะใช้วิธีการศึกษารูปแบบ) และสองพี่น้องได้ถูกนำมาแสดงฝีมือ แต่โกซาบุโร่บังคับให้เซโตะเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีแต่ความเข้มงวด ทำให้เขาได้เรียนในวิชาต่างๆ อันประกอบไปด้วย เศรษฐศาสตร์, สังคมศึกษา, ภาษาต่างประเทศ และทฤษฎีเกม หกปีต่อมา ดังที่เขาได้ศึกษาวิชาเหล่านี้ทำให้ไคบะมีทักษะและความรู้ ในขณะที่เขามีสิทธิถือครองหุ้นบริษัทไม่ถึงครึ่งหนึ่งของโกซาบุโร่ แต่โมคุบะก็ได้มอบเปอร์เซ็นต์ที่เขามีอยู่ให้เป็นหุ้นของเซบะ ไคโตะคอร์ป จากนั้นได้เข้ายึดการควบคุมบริษัทแทน และได้ทำการขับไล่พ่อเลี้ยงของเขาออกไป หลังจากนั้นในทันที โกซาบุโร่ได้อัตวินิบาตกรรมตัวเองโดยการโยนตัวออกไปทางหน้าต่าง ในเวอร์ชันอเมริกัน เขาได้อัปโหลดจิตใจของเขาเข้าไปอยู่ในซอฟต์แวร์ของไคบะคอร์ป ซึ่งเขาได้อาศัยอยู่ในโลกของไซเบอร์สเปซเป็นการชั่วคราว โดยเหตุการณ์เหล่านี้ได้เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ที่มีอยู่ในมังงะหกเดือน และปรากฏบางครั้งหลังจากมีเหตุการณ์แข่งขันที่แบทเทิลซิตี้

บุคลิกลักษณะ

ไคบะเป็นบุคคลที่ค่อนข้างหยิ่งยะโส และมีอัตตายึดตนเองเป็นศูนย์กลาง ซึ่งไม่ค่อยมีเวลาเอาใจใส่โมคุบะที่เป็นน้องชายของตน ทำให้เขาเป็นไปในลักษณะของแอนตี้ฮีโร่ ในเวอร์ชันต้นฉบับญี่ปุ่นเขาได้ละเลยการให้เกียรติผู้อื่น และมักใช้คำที่โอ้อวดตน แม้เขาจะมีบุคลิกดังกล่าว แต่เขาก็ยังอุทิศตัวและทำการปกป้องโมคุบะ รวมทั้งได้เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยน้องชายของเขาในหลายโอกาส ในทำนองเดียวกัน โมคุบะก็แสดงความภักดีต่อเซโตะตามที่เห็นเป็นผู้อยู่เคียงข้างตัวเขาเอง

แม้ว่าพลังเวทมนตร์และไอเท็มจะมีการใช้งานอยู่ในซีรีส์ แต่ไคบะก็เป็นคนมีเหตุผลไม่เชื่ออะไรง่ายๆ และมีความมั่นใจในเทคนิคและการสร้างภาพมายาได้ด้วยตนเอง ถึงแม้ว่ารูปแบบดังกล่าวจะมีแนวโน้มเกินจริงในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ ซึ่งได้มีการนำเสนอในทั้งสองเวอร์ชันของอนิเมะและมังงะ ในท้ายที่สุดเขายอมรับไม่ได้กับสิ่งอธิบายเกี่ยวกับความแปลกประหลาด ในเหตุการณ์แฟนตาซีที่เขาได้ประจักษ์ตลอดมา จากความยึดติดที่มีอยู่ในสายเลือด ไคบะได้แสดงความสัมพันธ์ต่อเครื่องยนต์กลไกต่างๆ กระทั่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สร้างภาพโฮโลแกรมหลายอย่างสำหรับการดูเอล และได้รับการแนะนำโดยมาซากิ อันสึในอนิเมะพากย์ภาษาอังกฤษ ที่อาจเป็นสาเหตุการเกลียดมนุษย์ของเขา

ไคบะเปลี่ยนบุคลิกลักษณะจากช่วงที่สองของอนิเมะซีรีส์ที่สองเป็นต้นไป ในช่วงแรก ไคบะได้รับความสามารถของเพกาซัสในการอ่านจิตใจ ตลอดจนหัวใจแห่งการ์ด แม้เขาจะไม่ชอบยูกิกับโจวโนะอุจิ แต่เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อพวกเขาอย่างตรงไปตรงมา ยกเว้นในช่วงตอนแรก อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่สอง เขาได้ยอมรับถึงความเชื่อและเวทมนตร์ที่หายไป และในอนิเมะภาษาอังกฤษ เขาแสดงถึงพฤติกรรมดังกล่าวโดยการบอกว่ามันเป็นเรื่องหลอกลวงที่ไร้สาระ ความปรารถนาของเขาที่จะกำจัดยูกิยังได้เติบโตขึ้นจากความคับแค้นที่มีอยู่ในจิตใจ และไคบะได้แสดงถึงความไม่สนใจอย่างตรงไปตรงมาถึงความปลอดภัยของยูกิและพวกพ้อง แม้เขาจะเป็นเช่นนี้ แต่เขาก็ยังคอยช่วยพวกของยูกิเอาชนะเหล่าร้ายที่พวกเขาได้เผชิญอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งอ้างว่ายูกิหรือเพื่อนของเขาได้เคยช่วยเอาไว้จึงไม่ต้องการติดหนี้บุญคุณต่อพวกของยูกิอีก หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะความประสงค์ของวายร้ายเหล่านั้นขัดต่อผลประโยชน์ของเขาเอง สำหรับยูกิและพวกแล้ว เขาให้ความนับถือต่อยูกิเป็นอย่างมาก แต่กลับแสดงความนับถือต่อโจวโนะอุจิน้อยที่สุด

ในโลกแห่งความทรงจำที่ไคบะผ่านพบมาด้วยตนเอง นักบวชเซโตะได้รับการแนะนำ ซึ่งนักบวชเซโตะมีความเป็นปฏิปักษ์น้อยกว่าในยุคของไคบะ และมีภาพพจน์ที่มีความภักดีเป็นอย่างยิ่งด้วยความยึดมั่นด้านความยุติธรรมอย่างเด่นชัด